5 สิ่งที่ขาดไม่ได้หากใครอยากทำ วิดีโอคอนเทนต์ (Video Content) ลงโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น TikTok, YouTube, Facebook, Instagram หรือแม้กระทั่งการไลฟ์สดขายของต้องมี 5 สิ่งนี้เป็นพื้นฐานการทำวิดีโอให้รุ่ง หากมีเรื่องที่จะทำในใจแล้ว ลองเอา 5 เทคนิคสำคัญนี้ไปพิจารณาปรับปรุงให้เข้ากับวิดีโอของเรา แล้ววิดีโอคอนเทนต์ของเราจะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน    

วิดีโอคอนเทนต์ ยังคงเป็นหนึ่งในคอนเทนต์ที่มาแรงและถูกใจผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตอย่างต่อเนื่อง โดยเฟซบุ๊กได้เผยว่า วิดีโอคอนเทนต์และการไลฟ์สดมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นถึง 50% ตั้งแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด ทางยูทูบก็ได้ออกมาเผยข้อมูลเสริมทับอีกว่า ผู้คนอัปโหลดวิดีโอใหม่ ๆ เป็นจำนวนกว่า 500 ชั่วโมงทุกนาทีบนยูทูบ ไหนจะเม็ดเงินจำนวนมหาศาลกว่า 9.26 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐที่จะหลั่งไหลเข้ามาลงทุนกับ Video Ads จากนี้ไปจนถึงปี 2024 จากการเติบโตของวิดีโอคอนเทนต์ที่มหาศาลนี้เอง ทำให้หลายคนอยากผันตัวมาเป็นครีเอเตอร์วิดีโอเพื่อสร้างแบรนด์ ทำธุรกิจออนไลน์ หรือแม้กระทั่งเป็น Influencer ท่านหนึ่ง หาเงินเข้ากระเป๋าด้วยการทำวิดีโอ

แล้วตอนนี้วิดีโอคอนเทนต์แนวไหนกำลังเป็นที่นิยมอยู่ ? เว็บไซต์ชื่อดัง Hootsuite ได้ร่วมกับ We Are Social สำรวจเกี่ยวกับการใช้สื่อโซเชียลมีเดียของคนทั่วโลกในรายงาน Hootsuite – Digital 2022 เพื่อดูพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลมีเดียเชิงลึก เทรนด์และแนวโน้มที่น่าจะเป็นในการทำสื่อโซเชียลทุกรูปแบบ ผลปรากฏว่า เหตุผลที่ผู้คนใช้โซเชียลมีเดียมากเป็นอันดับที่ 4 คือ ดูวิดีโอ ส่วนอันดับที่ 1 คือ เพื่อหาข้อมูล ชี้ให้เห็นว่าวิดีโอคอนเทนต์ยังจะไปได้ไกลทีเดียว

Cr. Hootsuite

วิดีโอคอนเทนต์ที่คนทั่วโลกนิยมดู 

• วิดีโอทั่วไป 91.9% 
• วิดีโอเพลง 51.4%
• วิดีโอตลก, มีม และวิดีโอที่เป็นไวรัล 37.1%
• วิดีโอประเภทบอกวิธีการใช้งาน และ How To 31.3%
• ไลฟ์วิดีโอ 30.4%
• วิดีโอเกี่ยวกับการศึกษา ให้ความรู้ 29.8%
• วิดีโอรีวิวสินค้า 27.7%
• วิดีโอสั้น 28.5% 
• วิดีโอเกม 27.4% 
• Vlogs และ วิดีโอของ Influencer 26.7%

ดังนั้นการทำ Video Content ลงโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะแพลตฟอร์มไหน จึงเป็นการการันตีได้ว่าคุ้มค่าแน่นอน ไม่ว่าคุณจะเป็นพ่อค้าแม่ค้าหรือเจ้าของธุรกิจ ไปจนถึงคนธรรมดาที่สนใจอยากทำวิดีโอคอนเทนต์หารายได้เสริม โอกาสเป็นของทุกคน แต่การทำวิดีโอคอนเทนต์ให้ดีก็ยังเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่หลายคนต้องศึกษาให้เข้าใจ เพราะแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีวิธีการทำวิดีโอให้โดดเด่นแตกต่างกัน เช่น TikTok ต้องทำวิดีโอแนวตั้ง สไตล์ Lo-Fi, YouTube ต้องทำวิดีโอแนวนอน และอย่าลืมเรื่องคีย์เวิร์ดที่ต้องศึกษาให้เข้าใจเพราะเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญที่จะทำให้คนเสิร์ชหาวิดีโอของเราเจอก่อนใคร 

5 Tips เพื่อการสร้าง Video Content ให้ปังทุกโซเชียล

ทำให้เข้าใจง่ายและชัดเจน

ไม่ว่าเนื้อหาของเราจะเป็นเรื่องซับซ้อนซ่อนเงื่อนแค่ไหนก็ตาม ให้ตั้งธงเอาไว้ทุกครั้งเมื่อต้องทำวิดีโอเลยว่า มันจะต้องเข้าใจง่าย ไม่ต้องปีนบันไดขึ้นไปฟัง รวมถึงเสียงและภาพก็ต้องชัดเจน เหมาะสม ดีไซน์ต่าง ๆ ในวิดีโอก็ต้องไม่รก ดูสบายตา 

• Video Graphic ใช้วิดีโอกราฟิกที่สบายตา เหมาะที่จะดูบนมือถือเพราะคนดูวิดีโอผ่านมือถือ 70% และต้องเลือกกราฟิกที่สไตล์เข้ากันกับเนื้อหาของวิดีโออีกด้วย 

• เอาช็อตเด็ดไว้ต้นวิดีโอ อย่าเก็บช็อตเด็ดไว้ท้าย ต้องดึงคนดูให้อยู่หมัดตั้งแต่วินาทีแรก ๆ  

ชื่อเรื่องต้องปัง คีย์เวิร์ดต้องโดน 

การตั้งชื่อให้กับวิดีโอ ไม่ใช่ว่าจะตั้งชื่ออะไรก็ได้นะคะ ขนาดนักโฆษณาในตำนานอย่าง David Ogilvy ยังเคยกล่าวไว้ว่า โดยปกติแล้วคนเราจะสนใจชื่อหัวข้อมากกว่าคอนเทนต์ข้างในถึง 5 เท่า นั่นหมายความว่า เนื้อหาวิดีโอของเราจะเป็นอย่างไรก็ตาม คนจะไม่สนใจกดเข้าไปดูเลย ถ้าชื่อวิดีโอมันไม่โดนใจเขาก่อน ส่วนหลักการตั้งชื่อวิดีโอมีดังนี้ 

• มีตัวเลข โดยเฉลี่ยเลขคี่จะดึงคนได้มากกว่าเลขคู่ถึง 20% ยกตัวอย่างเช่น แค่เปลี่ยนวิธีคิด 1% ชีวิตก็ดีขึ้น 99%

• มีคำที่ติดคีย์เวิร์ดอยู่ในชื่อคลิป เช่น วิธีทำยูทูบ วิธียิงแอด เป็นต้น เป็นคำที่คนชอบเสิร์ชบ่อย ๆ

• ตั้งชื่อวิดีโอที่ตอบคำถาม แก้ไขปัญหาให้คน เช่น ชีวิตดีขึ้นทุกด้านแค่จัดบ้านครั้งเดียว, ไปเที่ยวยุโรปแบบไม่เป็นหนี้บัตรเครดิต เป็นต้น  

ใส่แคปชั่นด้วย 

ทำไมการทำวิดีโอที่มีทั้งภาพและเสียงจะต้องมีแคปชั่นกำกับ ? ก็เพราะจากการสำรวจพบว่า 30% ของผู้ที่ดูวิดีโอเฉลี่ยอายุ 18 - 34 ปีมักจะเปิดเสียงไปด้วย แต่อีก 70% จะดูวิดีโอแบบปิดเสียง ดังนั้นต้องแน่ใจว่าวิดีโอของเราจะต้องเข้าใจได้แม้เวลาเปิด-ปิดเสียง โดยเราอาจลองเปิดวิดีโอแบบปิดเสียงดูก่อนโพสต์จริงว่าเข้าใจไหม

• แคปชั่น คือสิ่งที่จะทำให้คนไม่เลื่อนผ่านและกดดูวิดีโอของเราจนจบ เป็นสิ่งที่เติมเต็มประสบการณ์ของคนดูได้ดี การใส่แคปชั่นทำให้คนดูรู้สึกไม่ขาดตอน (Seamless) เพราะมีครบทั้งภาพ เสียงแล้วก็ Text

• วิดีโอที่มีแคปชั่น สามารถดึงคนดูได้มากกว่าวิดีโอที่ไม่มีแคปชั่นถึง 40%

• 85% ของผู้ใช้ Facebook ชอบดูวิดีโอแบบปิดเสียง (Mute)

• ตัดต่อวิดีโอ ต้องเหลือพื้นที่สำหรับใส่แคปชั่นได้ ตัดต่อวิดีโอใส่แคปชั่น คำบรรยายสั้น ๆ ในวิดีโอด้วย

มีจุดเด่นเป็นที่สะดุดตา 

ก่อนทำวิดีโอลงแพลตฟอร์ตไหนก็ตาม เราต้องแน่ใจว่าเรามีจุดเด่น เปรียบเสมือนเพลง Pop ที่ต้องมีท่อนติดหู หรือไม่ก็มีดนตรีติดหู มีภาพจำ ไม่ต้องบากบั่นทำวิดีโอยาวเหยียด แต่ทำวิดีโอที่สั้น กระชับและมีภาพจำที่ติดตา ติดหูคนดูได้ 

• เป็นตัวของตัวเอง ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวเราที่มีหนึ่งเดียวในโลกนี่แหละคือจุดเด่นของวิดีโอได้ หากคนดำเนินวิดีโอหลักไม่เป็นตัวของตัวเอง วิดีโอนั้นก็จะขาดความน่าสนใจไปเลย

• ใส่เพลง ใส่เสียง ที่เหมาะกับเนื้อหาของวิดีโอ เป็นเอกลักษณ์ที่ต้องถูกลิขสิทธิ์ด้วยนะ  

ความยาวของวิดีโอ 

แน่นอนว่าผู้ใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีพฤติกรรมการใช้งานที่แตกต่างกัน วิดีโอที่ลงในแต่ละแพลตฟอร์มจะไม่ใช้รูปแบบเดียวกัน ความยาวของวิดีโอก็จะไม่เท่ากันอีกด้วย เพราะหากเราทำวิดีโอยาว ๆ ไปลงบนแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งาน 90% ชอบดูวิดีโอสั้น ๆ ไม่กี่วินาที วิดีโอของเราก็ย่อมไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร 

• TikTok: 7 – 15 วินาที
• Twitter video: 44 วินาที
• YouTube video: 2 นาที
• LinkedIn video: ไม่เกิน 30 วินาที
• Snapchat video: 7 วินาที
• Pinterest video: 6 – 15 วินาที

ข้อมูลข้างต้นนี้เพียงพอแล้วที่จะทำให้เราเริ่มทำวิดีโอคอนเทนต์ลงโซเชียลที่เราชอบ หากทำแล้วฟีดแบคยังไม่ได้เปรี้ยง ให้เราทำต่อไปเรื่อย ๆ ยูทูบเบอร์หลายคนสร้างชื่อเสียงด้วยการลงวิดีโออย่างต่อเนื่อง ไม่ขาดตอน ในวิดีโอแรก ๆ อาจจะยังไม่ปังมาก ยังไม่สามารถสร้างรายได้ได้ แต่ถ้าทำต่อไปเรื่อย ๆ พัฒนาวิดีโอให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ คนดูก็จะตามมาเองค่ะ 

ที่มาข้อมูล

• https://blog.hootsuite.com/how-long-should-a-social-media-video-be/
• https://www.etda.or.th/th/Useful-Resource/Knowledge-Sharing/articles/e-Commerce/VDO-Content-01.aspx
• https://blog.hootsuite.com/how-long-should-a-social-media-video-be/
• https://www.convinceandconvert.com/social-media-marketing/social-media-videos/
• https://hootsuite.widen.net/s/gqprmtzq6g/digital-2022-global-overview-report
• https://www.rainmaker.in.th/type-of-video-for-each-platforms/
• https://www.youtube.com/watch?v=k0efC5uYaWY